วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ได้เวลาออกเดินทาง (3 Oct)

หลังจากที่ใช้เวลาวางแผนรวมทั้งจองอะไรต่อมิอะไรทุกอย่าง  เตรียมตัวทั้งใจและกาย เตรียมเอกสาร เครื่องแต่งกาย ยาที่จำเป็น ทั้งหมดใช้เวลา 2- 3 เดือน
ทำการเช็คอินออนไลน์ 24 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง แล้วก็.......

วันที่ 3 ตุลาคมก็มาถึง เดินทางไปสนามบินแห่งชาติสุวรรณภูมิ (ภูมิใจสนามบินของเราไม่แพ้ใครในโลก) ตรงไปเคาน์เตอร์เช็คอินอีกครั้งเพื่อรับ Boarding Pass และโหลดกระเป๋า สนามบินเราค่อนข้างเข้มงวดเรื่อง Power Bank ห้ามโหลดในกระเป๋าแต่ให้นำขึ้นเครื่องได้ น้องที่เคาน์เตอร์ตรวจค่อนข้างละเอียด ขอดูแม้กระทั่งตั๋วขากลับ ถามแม้กระทั่งว่าเรามีเงินติดตัวไปเท่าไหร่ สงสัยเธอเห็นเราไปตั้ง 35 วัน กลัวเราไม่มีตังกลับบ้าน 555





ร่ำลาลูกๆที่มาส่ง แล้วก็ผ่าน ต.ม. ผ่าน security ที่ค่อนข้างเข้มงวด แล้วเราก็ไปเดินชมร้านค้า Duty Free ที่มีมากมายจนตาลาย เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆ เลยไปใช้สิทธิ์นั่งทานอาหารที่ King Power Lounge ที่นั่งสบาย อาหารดี รอเวลาขึ้นเครื่อง





เมื่อใกล้เวลาแล้วก็ออกไปรอที่เกท ปรากฎว่ามีเสียงประกาศว่าไฟลท์ SU271 ที่จะไป Moscow เครื่อง delay 1 ชั่วโมง เอาละสิ เพราะเราต้องต่อเครื่องไป Budapest โดยมีเวลา Transit ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที แล้วพอเรียกขึ้นเครื่องกว่าจะบินก็เลทออกไปอีกครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ถ้าเครื่องบินใช้เวลาตามกำหนด เราจะเหลือเวลาต่อเครื่องแค่ 40 นาที ก็ยังหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น เครื่องใช้เวลาบินเกือบ 9 ชั่วโมง ระหว่างอยู่บนเครื่อง ก็ดูหนังซึ่งทั้ง Airbus A330-300 และ Boeing777-300ER ก็มีจอทีวีให้ทุกที่นั่งเหมือนกัน อาหารก็เสริฟแบบ Main dish 2 ครั้ง ซึ่งก็พอทานได้ (อย่าหวังอะไรมากกับอาหารบนเครื่องบิน)






ระหว่างบินก็พยายามจะไม่หลับ เพราะเราจะต่อเครื่องถึง Budapest ประมาณ 2 ทุ่มเวลาของที่นั่น กะว่าเมื่อเข้าโรงแรมก็อาบน้ำนอน ก็จะพอดีไม่ต้องปรับเวลาหรือเกิดอาการ Jet lag (ซึ่งเวลาจะช้ากว่าบ้านเราประมาณ 6 ชั่วโมง) กำหนดเวลาลงของเครื่อง 15.50 ที่ Moscow และเวลา 18.00 เครื่องบินไป Budapest ปรากฎว่าเลทจากเมืองไทย ชั่วโมงครึ่ง แต่เวลาจริงคือเครื่องลงเวลา 17.30 เราเหลือเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ทำให้เราต้องเสียมารยาทอย่างแรงในการแซงคิวตั้งแต่เครื่องจอด คือเบียดผู้โดยสารคนอื่นๆตั้งแต่อยู่บนเครื่องเพื่อจะออกประตูก่อน ก็ sorry sorry ลูกเดียว บอกเขาว่าเราจะต้อง transit เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน เขาก็คงจะเข้าใจเพราะเครื่อง delay ตั้งแต่อยู่สุวรรณภูมิแล้ว หลังจากออกประตูเครื่องเราก็วิ่งไปที่ passport control ก็ต้องเสียมารยาทผู้ดีคนไทยอีกแล้ว ครั้งนี้ไม่มีเวลาอธิบาย sorry ลูกเดียว แทรกไปจนถึงช่องออก เราบอกพนักงานว่าเราจะไป Budapest ออกช่องนี้ได้มั๊ย และยื่น passport และ boarding pass ให้เขา พอเขาดู แล้วชี้ทางไป gate ให้เราและบอก run run run จะรออะไรอีกหละ ก็วิ่งลูกเดียว ยังไม่สาแก่ใจ พอไปถึง gate 43 ใจหายวาบ ประตูปิดแล้ว ทำไงดี ?? ไม่มีเวลาถ่ายรูปสีหน้าตอนนั้นว่าเป็นยังไง ยืนงงมืดแปดด้าน ถามคนที่ยืนแถวนั้น เขาก็ไม่พูดอังกฤษ ก็เลยไปที่ gate 42 ซึ่งอยู่ใกล้กัน ถามพนักงานว่า gate 43 ปิดแล้วเหรอ เขาเลยขอ Boarding pass ไปดูแล้วกดคอมพิเตอร์ดู และบอกเราว่า  เปลี่ยนไปที่ gate 56 และชี้บอกทาง แล้วจะยืนเซ่ออยู่ทำไม วิ่งนะสิ มันใกล้ซะเมื่อไหร่หละ


2 กะเหรี่ยงวิ่งหน้าตั้งมาถึง gate 56 ขอบคุณพระเจ้า final call เกือบจะสุดท้าย ที่เรากังวลมาตลอดทางก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นึกว่าจะได้เริ่มทริปวันแรกด้วยการตกเครื่อง ถอนหายใจประมาณร้อยยี่สิบครั้งระหว่างบินไป Budapest เฮ้อ!!

เกือบลืมบันทึกอย่างหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้พบเห็น คือเป็นธรรมเนียมของชาวรัสเซียที่ เมื่อเครื่อง landing ล้อแตะพื้นรันเวย์ เขาจะตบมือกราวกันทั้งลำ เราก็เลยเนียนๆตบมือไปกับเขาด้วย ตามสุภาษิตไทย เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ยอมรับเลยว่า นักบินรัสเซียนำเครื่องลงได้นิ่มมากๆ สมควรตบมือให้จริง

เมื่อถึงสนามบิน Budapest ด้วยสวัสดิภาพ ก็เตรียมเข้าไปตัวเมือง ซึ่งเราได้ตัดสินใจตั้งแต่แรกที่จะเอาความสะดวกในวันแรก โดยนั่ง Shuttle bus ไปส่งถึงหน้าโรงแรม เพื่อจะได้สะดวกไม่ต้องไปเดินหาโรงแรมจะได้รีบพักผ่อนเตรียมตัวเที่ยวในวันพรุ่งนี้ แต่คงเฉพาะครั้งนี้ เพราะการไปส่งถึงที่มันไม่สนุกตื่นเต้น และแบบนั้นไม่ใช่สไตล์ของเรา





จริงๆแล้วเราสามารถนั่งรถบัสสาย 200E จากสนามบินไปลงสถานีรถ Metro และต่อ Metro ไปตามจุดต่างๆในเมืองได้ จะราคาถูกและประหยัดกว่ามาก
รถ Shuttle bus ไปส่งเราถึงหน้า โรงแรม Full Moon Design Hostel


วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน คงหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ......

ตอนที่แล้ว

ตอนต่อไป


ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์

การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น