ตามแผนวันนี้คือจาก Munich จะไป Wurzburg ก่อนแล้วเอากระเป๋าฝากตู้ล็อคเกอร์ที่สถานีรถไฟ แล้วนั่งรถไฟต่อไปที่ Rothenburg ob der Tauber เมืองเล็กๆน่ารักอีกเมืองที่ไม่สามารถตัดใจผ่านไปโดยไม่แวะได้ เที่ยวเสร็จค่อยกลับมานอนที่ Wurzburg จะไหวหรือเปล่าน้อ...
วันนี้ออกจากโรงแรมแต่เช้า เราต้องไปขึ้นรถไฟเที่ยวแรกของสิทธิ์การใช้ Bayern Ticket คือรถไฟเที่ยว 9.01 น. (ดูวิธีการซื้อ Bayern Ticket และเงื่อนไขจากตอนที่ 21) ซื้อตั๋วที่ Ticket Machine 2 คน 28 ยูโร เบ่งได้ตลอดทางจนถึงตี 3ของวันพรุ่งนี้
 |
| หน้าตา Bayern Ticket กรอกชื่อผู้เดินทางทุกคน |
 |
| Ticket Inspector เดินตรวจตั๋วและจะหนีบวันที่ลงบนตั๋ว |
วันนี้เราต้องเปลี่ยนรถไฟ 4-5 ขบวน
จากสถานี Muich Hauptbahnhof ออกจากสถานีเวลา 9.01 น. ไปถึงสถานี Ingolstadt เวลา 9.52 น. มีเวลาเปลี่ยนขบวน 13 นาที
ออกจาก Ingolstadt เวลา 10.05 น. ไปถึงสถานี Nurnberg เวลา10.48 น. มีเวลาเปลี่ยนขบวน 17 นาที
ออกจาก Nurnberg เวลา 11.05 น. ไปถึงสถานี Wurzburg เวลา 12.16 น.
รีบเอากระเป๋า 2 ใบใหญ่เข้าตู้ล็อคเกอร์ ตู้ใหญ่ตู้เดียวใส่กระเป๋าขนาด 23 นิ้วได้ 2 ใบ เราได้เอาเสื้อชุดที่จะใส่พรุ่งนี้ออกใส่เป้ เพราะคืนนี้เราจะไม่เอากระเป๋าไปโรงแรมด้วย เพราะเดินทางหลายที่จะได้สะดวก
ตู้หลายอันเสียต้องเปลี่ยน 3-4 ครั้งกว่าจะได้ และต้องเตรียมเหรียญหยอดด้วย ค่าฝาก 4 ยูโรต่อ 6 ชั่วโมง ครั้งแรกเข้าใจว่า 4 ยูโรฝากได้ทั้งวันเลยหยอดเหรียญไปแค่ 4 ยูโรตามตัวเลขหน้าจอบอกไว้ เพราะรีบจะไปขึ้นรถไฟด้วยเลยไม่ได้อ่านรายละเอียด
ขึ้นรถไฟที่ Wurzburg Hauptbahnhof เวลา 12.41 น. ไปถึงสถานี Steinach เวล 13.25 น. มีเวลาเปลี่ยนขบวน 10 นาที
ออกจาก Steinach เวล่า 13.35 ไปถึงสถานี Rothenburg ob der Tauber เวลา 13.49 น. คิดว่าใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเดินชมเมืองก็น่าจะเพียงพอ และจะกลับมาขึ้นรถเที่ยว 16.06 น.
 |
| Rothenburg ob der Tauber Hauptbahnhof |
จากสถานีเดินไปยังตัวเมืองประมาณ 15 นาที เดินไปยังไม่ถึงอยู่ๆฝนก็เริ่มตกลงมา ต้องหาที่หลบ แต่ก็ตัดสินใจกางร่มลุยเลยไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันกลับมาขึ้นรถ
Rothenburg ob der Tauber เป็นเมืองเล็กๆน่ารักเมืองหนึ่งในตอนกลางของบาวาเรีย อาคารบ้านเรือนเก่าแก่สีสวยตั้งอยู่บนเนินที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ ท่ามกลางทิวทัศน์ป่าเขาลำเนาไพรและแม่น้ำเทาเบอร์ เมืองนี้ก่อสร้างในศตวรรษที่ 12 และยังคงรักษาเอกลักษณ์และบรรยากาศเมืองในยุคกลางเอาไว้ได้เป็นอย่างดีทั้งตัวอาคารบ้านเรือนและวัฒนธรรมประเพณี
 |
| Rodertor ประตูเมืองด้านทิศตะวันออก |
 |
| แนวกำแพงเมือง มีป้อมเป็นระยะๆ สามารถไปเดินข้างบนได้ |
 |
| Rodertor Tower Gate |
 |
| ซุ้มประตูโค้ง Roderbogen มีป้อมหอคอย Markusturm อยู่ข้างบน |
Marktplatz เป็นจัตุรัสใจกลางเมือง และเป็นที่ตั้งของ Rathaus ศาลาว่าการเมืองที่มีหน้ามุขเป็นเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองซ์ และรายล้อมไปด้วยบ้านเรือนหลังคาทรงหน้าจั่วหลากสีสรร บ้านโครงไม้ต้นซุงอีกหลายหลัง
 |
| ถนนทุกสายจะปูด้วยหิน เดินลำบาก แต่คงดีสำหรับตอนหิมะตก |
 |
| Plonlein มุมสวยที่สุดของเมือง เป็น Landmark ที่นักท่องเที่ยวจะไม่ยอมพลาด |
 |
| หอคอย Siebersturm ทางทิศใต้ |
 |
| อาคาร Ratsherrn Trinkstube สมัยก่อนเคยเป็นโรงอาหารของสภาเมืองเก่า บนหน้าจั่วมีนาฬิกาต่างยุคอยู่ 3 เรือน |
 |
| Column of St George Fountain |
 |
| Rathaus tower |
 |
| Mermaid Fountain |
 |
| Franziskanerkirche |
 |
| The Burgturm, the tallest of all gate tower. |
 |
| ป้อมปราการ Burgstor |
 |
| ป้อมปราการตามกำแพงเมือง |
 |
| St Jacobskirche |
 |
| St Jacob ที่หน้าโบสถ์ |
 |
| พระเยซูทรงอธิษฐานในสวนเกทเสมานี |
แล้วพระองค์เสด็จกลับมาหาพวกสาวก ทอดพระเนตรเห็นเขาทั้งหลายนอนหลับอยู่ พระองค์ตรัสกับเปโตรว่า “เป็นอย่างไรนะ พวกท่านจะเฝ้าระวังอยู่กับเราสักชั่วโมงไม่ได้หรือ? ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐานเพื่อจะไม่ถูกทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง” (มัทธิว 26:40-41)
แวะไปทานข้าวร้านเวียดนามในศูนย์การค้าตรงข้ามสถานีรถไฟ รอรถกลับ Wurzburg เวลา 16.06 น.
กลับมาถึง Wurzburg ก็มืดแล้ว เดินไปดูวิวกลางคืนแถวสะพาน Alte Mainbruke จะคล้ายๆกับสะพาน Charles ในกรุงปราก แต่เล็กกว่า
 |
| St Kilian มองเห็นไกลๆคือ ปราสาทมารีนแบร์ก |
 |
| Wurzburg Cathedral |
 |
| Mariencapelle (St Mary's Chapel) |
เดินกลับไปที่โรงแรม พรุ่งนี้มีเวลาสำรวจเมือง Wurzburg ก่อนเดินทางไป Frakfurt
วันนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ..............
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 22 วันที่ 21 ของการเดินทาง ที่ Munich (23Oct)
ตอนต่อไป
ตอนที่ 24 วันที่ 23 ของการเดินทาง From Wurzburg to Frankfurt (25Oct)
ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์
การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK
