วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

วันที่ 18 ของการเดินทาง ที่ Garmisch-Partenkirchen (20Oct)

วันนี้ตื่นแต่เช้า เพราะตั้งใจจะไปขึ้น Cogwheel Train เที่ยว 10.15 จะได้มีเวลาซึมซับบรรยากาศบนยอดเขานานหน่อย จริงๆตั้งใจให้เวลาทั้งวันๆนี้กับ Zugspitze


Zugspitze ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง Garmisch-Partenkirchen เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน มีความสูง 2962 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นที่ชื่นชอบของนักสกีจากทั่วโลก และแม้แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เล่นสกีเช่นเรา ก็ล้วนต้องการจะได้ขึ้นมาชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของที่นี่ ซึ่งมีจุดชมวิวแบบ 360 องศา ถ้าท้องฟ้าเปิดก็จะสามารถชมวิวยอดเขาที่มีถึง 400 ยอด และมองข้ามพรมแดนถึง 4 ประเทศ มีโบสถ์ที่อยู่สูงที่สุด มี Cable Car รับส่งถึง 2 เส้นทาง (ถ้ารวม Cabe Car ที่ด้านออสเตรียก็จะเป็น 3 เส้นทาง) มีเขตพรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรียบนยอดเขา
ผู้ที่พิชิตยอดเขา Zugspitze เป็นคนแรก คือ Josef Naus เมื่อ 27 สิงหาคม ปี 1820


การขึ้นยอดเขา Zugspitze มี 2 วิธี คือ
1. จากสถานี Zugspitzbahn(Garmisch) นั่ง Cogwheel Train ไปลงที่สถานี Eibsee แล้วต่อ Cable Car ขึ้นไปที่ยอดเขา ส่วนขาลงก็ย้อนกลับทางเดิมหรือสลับกับวิธีที่ 2 ก็ได้
2. จากสถานี Zugspitzbahn(Garmisch) นั่ง Cogwheel Train ไปลงที่สถานี Glescherbahnhof Zugspitzplatt แล้วต่อ Cable Car ขึ้นไปที่ยอดเขา ขาลงจะย้อนลงทางเดิมหรือสลับกับวิธีที่ 1 ก็ได้






เดินจากโรงแรมมาที่สถานีรถไฟและเดินทะลุไปยัง Zugspitzbahn สอบถามสภาพอากาศแล้วก็มีช่วงท้องฟ้าเปิดบ้าง เลยตัดสินใจซื้อตั๋ว ราคาไปกลับคนละ 53 ยูโร เราเลือกที่จะไปโดยวิธีที่ 2 คือนั่ง Cogwheel Train ไปรวดเดียวถึง Zugspitzplatt เลยโดยไม่แวะที่ Eibsee

Cogwheel Train





จอบนรถไฟจะบอกว่าถึงสถานีไหนแล้ว



สถานี Eibsee ถ้าจะแวะทะเลสาปก็ลงที่นี่


Eibsee

สถานี Glescherbahnhof Zugspitzplatt ปลายทางของ Cogwheel Train

เมื่อก้าวออกจากอาคารสถานีปลายทาง รู้สึกตื่นเต้นมากกับภาพที่เห็นข้างหน้า ท้องฟ้าเปิดบางส่วน ไม่มีหิมะตก อากาศหนาวเย็นยะเยือก วันนี้เตรียมตัวมาอย่างดี เสื้อ 5 ชั้น กางเกง 2 ชั้น รองเท้าลุยหิมะและกันน้ำ พร้อมแล้วก็ออกลุยเลยค่ะ














เสียดายที่มองวิวได้ไม่ไกลเพราะเมฆหมอกหนา ถ้าท้องฟ้าเปิดจะสามารถมองไกลสุดลูกหูลูกตาเลย











มองขึ้นไปบนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน จะเห็นโบสถ์เล็กๆ ชื่อ มาเรีย ฮิมเมลฟาร์ท (Maria Himmelfahrt) ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในเยอรมนี 













ทิวทัศน์ที่มองลงมาจากหน้าโบสถ์





















หิมะเริ่มตกแล้วต้องหาที่หลบ เลยแวะทานอาหารที่ร้าน Sonn Alpin 2600 m ร้านอาหารที่สูงที่สุดในเยอรมัน ปกติลานหน้าร้านจะเป็นที่นั่งทานได้ถ้าอากาศดีๆ แต่วันนี้ไม่ไหวขอเข้าไปหลบรับไออุ่นดีกว่า เป็นร้านที่ต้องบริการตนเอง ต้องไปเข้าแถวสั่งและยกมาเอง






เก้าอี้นอนอาบแดดสำหรับวันที่มีแดดดีๆๆ








ตอนนี้ก็ได้เวลาไปขึ้น Cable Car ที่จะพาเราไปสู่ยอดเขา Top of Germany




ข้างบนหมอกหนามาก ต้องคอยจ้องรอหาจังหวะดีๆเพื่อถ่ายภาพ ไม่เป็นไรบอกแล้วเราให้เวลาทั้งวันกับที่นี่ และนี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่คนที่เที่ยวกับทัวร์ไม่สามารถทำได้



กางเขนที่จุดสูงสุดบนยอดเขา ถ้าไม่มีหิมะตกเขาก็จะเปิดให้เราขึ้นไปได้ แต่วันนี้คงหมดโอกาส




ลูกเล็กๆเขาก็ยังพาขึ้นมาได้นะ

ป้ายแสดงเขตแดนเยอรมันนี (Bayern)


ประตูข้ามไปยังเขตแดนออสเตรีย (Tirol) อดีตนั้นจะต้องมีด่านตรวจคนเข้าเมืองบนนี้ แต่หลังจากมีการรวมเป็น Schengen ก็ได้ยกเลิกด่าน และเราก็เดินเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย
เดี๋ยวเราจะเดินข้ามไปชมยอดเขาฝั่งออสเตรียซะหน่อย แต่ระวังอย่าเดินเพลิน ห้ามลงผิดฝั่งนะคะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง






ฝั่งออสเตรีย ท้องฟ้าปิด 100% มองไม่เห็นอะไรเลย


ข้ามกลับมาฝั่งเยอรมัน ลงไปเดินเล่นที่ระดับ 2600 เมตรดีกว่า บนนี้หนาวมากและไม่เห็นอะไรเลย




มีร้านขายของฝากและพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แสดงอุปกรณ์ในการสู้กับหิมะของคนสมัยก่อน


น่าจะเป็นรองเท้าลุยหิมะ

ทางลง มองเห็นสถานี Zugspitzplatt อยู่ด้านล่าง





ก่อนกลับของเก็บภาพสวีทหวานแหววลืมแก่ซะหน่อย 555


























ระหว่างทางลง เราเลือกลงทางเดิม เพราะถ้าลง Cable Car ไปที่ Eibsee นั้นทางสูงและชันมากและต้องอยู่บนกระเช้าเป็นเวลานาน ไม่เอาดีกว่า เสียว แต่ทาง Cogwheel Train จะใช้เวลานานกว่า เพราะรถไฟค่อยๆไต่เขา ส่วน Cable Car ก็จะเป็นเหมือนทางลัดและได้ชมวิวอีกแบบหนึ่ง


ระบบรางของ Cogwheel Train จะมีเฟืองเกาะอยู่ตรงกลางกันการลื่นไถลช่วงขึ้น-ลงเขา





สถานที่แข่งสกีโอลิมปิค อยู่ข้างๆกับสถานี Zugspitzbahn แต่เรามาไม่ทันเวลาที่จะเข้าชม


กลับมาถึงด้วยความปลอดภัย เดินเที่ยวต่อในเมืองค่ะ


เมืองเล็กๆโบสถ์ก็เล็กๆไปด้วย น่ารักดีแต่จำชื่อไม่ได้ค่ะ ใครรู้บอกที







วันนี้เหนื่อยละค่ะ ขอกลับไปพักก่อน พรุ่งนี้เตรียมเดินทางสู่เมือง Fussen เพื่อไปปราสาท Neuschwanstein Castle ปราสาทในฝันของนักท่องเที่ยว
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...................



ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 18 วันที่ 17 ของการเดินทาง From Innsbruck to Garmisch-Partenkirchen (19Oct)

ตอนต่อไป
ตอนที่ 20 วันที่ 19 ของการเดินทาง From Garmisch-Partenkirchen to Fussen (21Oct)  

ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์

การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น