วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560

วันที่ 17 ของการเดินทาง From Innsbruck to Garmisch-Partenkirchen (19Oct)

วันนี้นอนตื่นสายมาก ลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรม แล้วกลับขึ้นมาเก็บของเตรียมเดินทางอีกแล้ว วันนี้ต้องเดินทางข้ามประเทศจากออสเตรียไปเยอรมัน แต่ระยะทางไม่ไกล ใชเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงโดย Flixbus เราได้ซื้อตั๋วออนไลน์มาแล้ว รถออกเวลา 11.45 น. Fixbus เป็นบริษัทเดินรถที่มีเกือบทั่วยุโรป รถใหม่ บริการดี


เราวางแผนที่จะพักที่ Garmisch-Partenkirchen 2 คืน จริงๆแล้วเป็นเมืองที่เล็กมาก เดินได้ทั่วภายในสัก 2-3 ชั่วโมง แต่เป้าหมายของเราคือขึ้นชมวิวบนยอดเขา Zugspitze ซึ้่งเป็น Top of Germany ไม่แน่ว่าอากาศจะดีท้องฟ้าเปิด สามารถขึ้นไปได้ เลยต้องอยู่เผื่อไว้ 2 วัน
เช่นเคยเราลากกระเป๋าไปที่ป้ายรถ รอรถ Flixbus การเดินทางที่ผ่านมาสิบกว่าวันก็รู้สึกว่าการลากกระเป๋า การต่อรถ การเดินทางเองในประเทศแถบนี้นั้นมันไม่ได้ยากเลย เพียงวางแผนมาดีๆ และก่อนวันเดินทางก็ไปสำรวจจุดขึ้นรถให้เรียบร้อย ถ้าเป็นรถไฟก็จะง่ายเพราะสถานีใหญ่โตชัดเจน แต่ถ้าเป็นบัสบางครั้งก็ต้องเดินหาบ้าง ถามบ้าง เพราะบางครั้งรถไม่ได้จอดในสถานี แต่จะเป็นป้ายเหมือนป้ายรถเมล์บ้านเรา และจะมีตารางเวลาแน่นอนติดไว้ที่จุดนั้น เราดูจากตารางก็จะรู้ว่าเราที่เราจะขึ้นจอดที่ป้ายนี้หรือเปล่า (ป้ายจะเป็นสัญลักษณ์วงกลมเขียวเหลืองมีตัว H)




เมื่อเดินทางมาถึง Garmisch-Partenkirchen ป้ายรถบัสจะอยู่หน้าสถานี Garmisch-Partenkirchen Bahnhof ง่ายและสะดวกมาก 



จากที่สถานีเราเดินไปโรงแรม Hostel 2962 ไม่ถึง 10 นาที ชื่อของโรงแรมบอกถึงความสูงของยอดเขา Zugspitze เป็นโรงแรมเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่ราคาแพงพอสมควร เราได้ห้องที่มีระเบียง มองวิวเทือกเขาสวยงามมาก






ในอดีต Garmisch-Partenkirchen เป็น 2 เมืองเล็กที่อยู่ข้างๆกัน ในสมัยฮิตเลอร์ปกครองนั้น เขาต้องการที่จะใช้เมือง Garmisch เป็นสถานแข่งขันสกีโอลิมปิคฤดูหนาว แต่เมืองเล็กเกินไปไม่มีโรงแรมและสาธารณูปโภคเพียงพอ จึงไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโอลิมปิค ฮิตเลอร์ก็เลยจับเมือง Partenkirchen มารวมกับ Garmisch จึงเกิดเป็นเมือง Garmisch-Partenkirchen อย่างทุกวันนี้ และในที่สุด Garmisch-Partenkirchen ก็ได้เป็นเจ้าภาพจัด Winter Olympic ในปี 1936 ก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939

เก็บของเสร็จ ถามเจ้าของโรงแรมเรื่องการขึ้นยอดเขา เขาช่วยเช็คอากาศแบบ Realtime ให้ และวันนี้ยังไม่เหมาะที่จะขึ้นไปเพราะหมอกหนา จะไม่เห็นอะไร เราต้องเช็คสภาพอากาศให้ดีเพราะค่ารถไฟ Cogwheel Train และต่อด้วย Cable Car นั้นแพงมาก ถ้าขึ้นไปไม่เห็นอะไรก็จะเสียเงินเปล่า


เราเลยย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟเพื่อดูการเดินทางสำหรับเมืองต่อไปคือ Fussen ในวันที่ 21/10/2016 ว่าจะเลือกไปวิธีไหน ที่เราเตรียมแผนมาคือ จะนั่งรถไฟไปลงที่เมือง Rutte ของ Austria แล้วต่อรถบัสข้ามกลับไปที่ Fussen แต่เมื่อมาดูแล้ว เห็นมีรถบัสของ DB Bahn #9606 วิ่งตรงจากที่นี่ไปถึง Fussen รวดเดียวเลยแต่มีแค่วันละ 1 เที่ยวคือออกเวลา 9.40 ของทุกวัน ตกลงถ้าพรุ่งนี้เราสามารถขึ้นยอดเขา Zugspitze ได้ เราก็จะเลือกเดินทางโดย 9606 แต่ถ้ายังขึ้นไม่ได้เราคงต้องเลือกที่จะขึ้นยอดเขาในวันเดินทางก่อนแล้วค่อยเดินทางตอนบ่ายตามแผนเดิม


เดินเข้าไปในสถานีดูวิธีซื้อตั๋วรถไฟจากตู้ Ticket Machine ซึ่งเราจะต้องใช้ตู้นี้ตลอดการเดินทางในเยอรมัน เรายังสามารถกดดูและพิมพ์ตารางเวลาที่เราต้องการออกมาได้ฟรี


เลือกภาษาอังกฤษ (แสดงเป็นรูปธง)


เลือกต้นทางและปลายทาง

เลือกรายละเอียด ต้นทาง-ปลายทาง



เลือกประเภทการเดินทาง

จำนวนผู้โดยสาร


ชั้น 1 หรือชั้น 2 และประเภทรถไฟ


เลือกช่วงเวลา





กด print ตารางออกมาดูได้
เดินทะลุสถานีเดินต่อไปเพื่อจะไปดู Zugspitzebahn สถานีรถ Cogwheel Train และที่จำหน่ายตั๋ว เพื่อจะไปสอบถามถึงสภาพอากาศบนยอดเขาด้วย






ดูจากจอทีวีที่เป็นสภาพบรรยากาศ Realtime บนยอดเขาแล้วมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะหมอกหนามาก สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงโอกาสที่จะขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้ เขาก็ไม่สามารถตอบได้ มีแต่แนะนำให้กลับมาดูในวันพรุ่งนี้




ถ้าสนใจสภาพอากาศ ภูมิประเทศที่เป็นแบบ realtime สามารถเข้าไปดูได้ตามลิงค์ค่ะ
360° Panorama on the Zugspitze

สรุปแล้ววันนี้ก็จะเดินชมเมืองไปเรื่อยๆค่ะ 





อาคารส่วนใหญ่จะทาสีสดใส มีลวดลายรูปภาพต่างๆ ดูสวยงามแปลกตา และตัวเมืองจะถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขา บนยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมเกือบตลอดปี












Sebastianskirche (Church of St Sebastian) เป็นโบสถ์เล็กๆในตัวเมือง






 นั่งพักในสวนข้างโบสถ์ โบสถ์เล็กๆแต่สวนกว้างขวางมาก


แต่ละบ้านก็เตรียมฟืนไว้สำหรับหน้าหนาวที่กำลังมาถึง






Maria-Himmelfaht (Assumption Day) Church หรือ The Assumption Day of Mary (ตามความเชื่อของ Catholic Church และ Eastern Orthodoxy มีความเชื่อว่านางเรียถูกรับขึ้นไปสวรรค์ในสภาพร่างกายเนื้อหนัง)









ภาพปั้นนูนประดับที่ผนัง เป็นลำดับเหตุการณ์ของพระเยซู ตั้งแต่การพิพากษา การแบกกางเขน การตรึงพระองค์บนกางเขน สิ้นพระชนม์และนำพระศพไปฝัง เป็นงานปั้นนูนที่สวยงามมาก





















 ร้านนวดแผนไทย น้องๆมาอยู่หลายปีจนพูดเยอรมันได้คล่อง คนหนึ่งมาจากศรีสะเกษและอีกคนมาจากนครราชสีมา เขาก็ดีใจที่ได้พบคนไทย ยังเสนอจะตำน้ำพริกให้เราทานด้วย



 เดินกลับที่พัก



แวะซื้อไก่ย่าง 1 ตัว กับองุ่น 2 กิโลกลับไปทานที่ห้อง 



ได้เวลาพักผ่อนแล้วค่ะ พรุ่งนี้หวังว่าอากาศจะดีท้องฟ้าเปิด จะได้ขึ้นยอดเขา Zugspitze แต่เช้าเลย
คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ........



ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 17 วันที่ 16 ของการเดินทาง ที่ Innsbruck (18Oct)

ตอนต่อไป
ตอนที่ 19 วันที่ 18 ของการเดินทาง ที่ Garmisch-Partenkirchen (20Oct)

ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์

การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น