วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วันที่ 15 ของการเดินทาง From Salzburg to Innsbruck (17Oct)

วันนี้จะเดินทางไป Innsbruck เมืองที่มีเขตแดนติดกับเยอรมัน เช้าทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม เช็คเอาท์ 9 โมง ฝากกระเป๋าไว้ที่เคาเตอร์ เดินไปที่ Bible Welt หรือ Bible World ในภาษาอังกฤษ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินไปถึงยังไม่เปิด ต้อง 10.00 น เสียดายมากเพราะต้องไปขึ้นรถไฟเวลา 11.00 น ที่ Hauptbahnhof และซื้อตั๋วออนไลน์มาแล้ว (ข้อเสียของการซื้อตั๋วมาก่อน)

Bible Welt Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ของโลกพระคัมภีร์ ไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วๆไป แต่ผู้เข้าชมจะเหมือนได้เข้าไปในโลกของพระคัมภีร์ ขนาดพื้นที่ 600 ตารางเมตร เดินผ่านภาพเรื่องราวของพระเยซูพร้อม Audio Guide สุดท้ายก็ได้ชมแค่รอบๆอาคาร  555






 ต้นมะเดื่อ ปลูกอยู่ข้างอาคาร Bible Welt



เดินกลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วไปที่สถานีรถไฟ Salzburg Hauptbahnhof  เราจะใช้บริการของ OEBB เป็น Intercity train รถด่วนที่จอดแค่ 2-3 สถานี


ถ้าไม่ได้ซื้อตั๋วมาก็ซื้อได้จากตู้นี้
ดูตารางเวลาที่จอ เราขึ้นขบวน IC662 ชานชลาที่ 2B-E


จอจะแสดงรายละเอียดว่าเราอยู่ตู้ไหน ขึ้นที่ล็อคไหน





 เราได้ที่นั่งเป็นห้อง 6 ที่นั่ง แต่มีแค่เรา 2 คนก็เลยวางกระเป๋าได้สบายๆ




จาก Innsbruck Hauptbahnhof ลากกระเป๋าไปที่โรงแรมประมาณ 500 เมตร พึ่งรู้ตัวว่ากระเป๋า 1 ใบล้อเริ่มมีปัญหา ยางหุ้มล้อแตกออก 1 ล้อทำให้ลากไม่ค่อยสะดวก เราพักที่ Hotel Goldene Krone อยู่หัวมุมตรงข้ามกับประตูชัย Triumphpforte ซึ่งเป็น Landmark ของเมืองเลยค่ะ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆด้วย



ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วออกเที่ยวเลย เริ่มต้นเดินไปที่ย่าน Old Town



St Anne’s Column สร้างขึ้นในปี 1706 เพื่อเฉลอมฉลองการถอยกำลังหลังของทหารบาวาเรียน

โบสถ์ Spitalkirche

ถนน Maria Theresein Strasse
Swarovski Kristallwelten Store Innsbruck เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ส่องประกายแพรวพราวในย่านเมืองเก่า ใกล้กับหลังคาทองคำ (Goldenes Dachl) ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและตัวอาคารนั้นเก่าแก่ที่สุดในจัตุรัส ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าของสวารอฟสกี้ ตั้งแต่อัญมณีจนถึงปฏิมากรรมขนาดเล็ก รวมทั้งนวัตกรรมที่ผลิตจากคริสตัลและที่เกี่ยวข้องกับคริสตัล










ถนน Herzog-Friedrich-Strasse วึ่งเป็นถนนหลักของเมืองเก่าโดยมีแลนด์มาร์คคือ Golden Roof (Goldenes Dachl) ซึ่งเราจะมองเห็นได้จากระยะไกลเลยเพราะหลังคาสีทองแวววาว



ถนน Herzog-Friedrich-Strasse ซึ่งเป็นถนนคนเดิน สองข้างทางเป็นตึกโบราณดูสวยงามจริงๆ หอคอยสูงๆที่เห็นคือ Stadtturm เป็นหอคอยเก่า ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวมุมสูง







Golden Roof สร้างด้วยศิลปะแนวโกธิค สร้างในช่วง 1494-1496 จุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสของพระเจ้า Maximilian I และเป็นสถานที่ที่กษัตริย์และราชวงค์นั่งชมงานเฉลิมฉองสำคัญๆที่จัตุรัสด้านล่าง สีทองๆที่เห็นคือกระเบื้องทองแดงค่ะ






อาคารสวยสไตล์ บาร็อค




St Jacob Cathedral Innsbruck
โบสถ์สไตล์บาร็อค สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 18 เสียดายกำลังปิดซ่อมแซม




ถนนเลียบแม่น้ำอินน์


Ottoburg Restuarant 
แต่ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทของ พระเจ้า Maximillian I ที่สร้างในปี 1180 ปัจจุบันเป็นห้องอาหารที่เก่าแก่และโรแมนติคที่สุดในอินน์สบรูค




อินน์สบรูค (Innsbruck) เป็นเมืองเมืองหลวงของรัฐ Tyrol,Austria ตั้งอยู่ที่ราบลุ่มอินน์ (Inn Valley) โดยมีแม่น้ำอินน์ไหลผ่าน และถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอล์ป คำว่า bruck  เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า bridge ชื่อ Innsbruck ก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำอินน์ ตัวเมืองมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีทัศนียภาพที่สวยงามจากเทือกเขาแอล์ปที่โอบล้อมอยู่จนได้รับการขนามนามว่า Capital of Alps เป็นเมืองที่อยู่ในอ้อมกอดของเทือกเขาแอล์ป นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน Winter Youth Olympic แห่งแรกด้วย





กางเขนบนสะพานข้ามแม่น้ำอินน์











โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในอินส์บรูค Goldener Adler (Golden Eagle) สร้างในศตวรรษที่ 16 มีแขกดังๆมาพักหลายคน ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่



ตึกสีขาวใหญ่ๆที่เห็นคือ Imperial Palace (Hofburg) ภายในเป็นเหมือน complex มีสวน โบสถ์และพิพิธภัณฑ์










Tiroler Landestheater


เริ่มมืดละ เดินกลับโรงแรมทาง Old Town








ถึงโรงแรมก็มืดแล้ว เราจะพักที่นี่ 2 คืนค่ะ
คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์นะคะ......................


ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 15 วันที่ 14 ของการเดินทาง ที่ Salzburg (16Oct)

ตอนต่อไป
ตอนที่ 17 วันที่ 16 ของการเดินทาง ที่ Innsbruck (18Oct)

ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์

การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK