Bible Welt Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ของโลกพระคัมภีร์ ไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วๆไป แต่ผู้เข้าชมจะเหมือนได้เข้าไปในโลกของพระคัมภีร์ ขนาดพื้นที่ 600 ตารางเมตร เดินผ่านภาพเรื่องราวของพระเยซูพร้อม Audio Guide สุดท้ายก็ได้ชมแค่รอบๆอาคาร 555
ต้นมะเดื่อ ปลูกอยู่ข้างอาคาร Bible Welt
เดินกลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วไปที่สถานีรถไฟ Salzburg Hauptbahnhof เราจะใช้บริการของ OEBB เป็น Intercity train รถด่วนที่จอดแค่ 2-3 สถานี
ถ้าไม่ได้ซื้อตั๋วมาก็ซื้อได้จากตู้นี้ |
ดูตารางเวลาที่จอ เราขึ้นขบวน IC662 ชานชลาที่ 2B-E |
จอจะแสดงรายละเอียดว่าเราอยู่ตู้ไหน ขึ้นที่ล็อคไหน |
เราได้ที่นั่งเป็นห้อง 6 ที่นั่ง แต่มีแค่เรา 2 คนก็เลยวางกระเป๋าได้สบายๆ
จาก Innsbruck Hauptbahnhof ลากกระเป๋าไปที่โรงแรมประมาณ 500 เมตร พึ่งรู้ตัวว่ากระเป๋า 1 ใบล้อเริ่มมีปัญหา ยางหุ้มล้อแตกออก 1 ล้อทำให้ลากไม่ค่อยสะดวก เราพักที่ Hotel Goldene Krone อยู่หัวมุมตรงข้ามกับประตูชัย Triumphpforte ซึ่งเป็น Landmark ของเมืองเลยค่ะ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆด้วย
ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วออกเที่ยวเลย เริ่มต้นเดินไปที่ย่าน Old Town
St Anne’s Column สร้างขึ้นในปี 1706 เพื่อเฉลอมฉลองการถอยกำลังหลังของทหารบาวาเรียน
โบสถ์ Spitalkirche |
ถนน Maria Theresein Strasse |
Swarovski Kristallwelten Store Innsbruck เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ส่องประกายแพรวพราวในย่านเมืองเก่า ใกล้กับหลังคาทองคำ (Goldenes Dachl) ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและตัวอาคารนั้นเก่าแก่ที่สุดในจัตุรัส ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าของสวารอฟสกี้ ตั้งแต่อัญมณีจนถึงปฏิมากรรมขนาดเล็ก รวมทั้งนวัตกรรมที่ผลิตจากคริสตัลและที่เกี่ยวข้องกับคริสตัล
ถนน Herzog-Friedrich-Strasse วึ่งเป็นถนนหลักของเมืองเก่าโดยมีแลนด์มาร์คคือ Golden Roof (Goldenes Dachl) ซึ่งเราจะมองเห็นได้จากระยะไกลเลยเพราะหลังคาสีทองแวววาว
ถนน Herzog-Friedrich-Strasse ซึ่งเป็นถนนคนเดิน สองข้างทางเป็นตึกโบราณดูสวยงามจริงๆ หอคอยสูงๆที่เห็นคือ Stadtturm เป็นหอคอยเก่า ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวมุมสูง
Golden Roof สร้างด้วยศิลปะแนวโกธิค สร้างในช่วง 1494-1496 จุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสของพระเจ้า Maximilian I และเป็นสถานที่ที่กษัตริย์และราชวงค์นั่งชมงานเฉลิมฉองสำคัญๆที่จัตุรัสด้านล่าง สีทองๆที่เห็นคือกระเบื้องทองแดงค่ะ
อาคารสวยสไตล์ บาร็อค |
St Jacob Cathedral Innsbruck
โบสถ์สไตล์บาร็อค สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 18 เสียดายกำลังปิดซ่อมแซม
ถนนเลียบแม่น้ำอินน์ |
Ottoburg Restuarant
แต่ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทของ พระเจ้า Maximillian I ที่สร้างในปี 1180 ปัจจุบันเป็นห้องอาหารที่เก่าแก่และโรแมนติคที่สุดในอินน์สบรูค
กางเขนบนสะพานข้ามแม่น้ำอินน์ |
โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในอินส์บรูค Goldener Adler (Golden Eagle) สร้างในศตวรรษที่ 16 มีแขกดังๆมาพักหลายคน ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่
ตึกสีขาวใหญ่ๆที่เห็นคือ Imperial Palace (Hofburg) ภายในเป็นเหมือน complex มีสวน โบสถ์และพิพิธภัณฑ์
Tiroler Landestheater |
เริ่มมืดละ เดินกลับโรงแรมทาง Old Town
ถึงโรงแรมก็มืดแล้ว เราจะพักที่นี่ 2 คืนค่ะ
คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์นะคะ......................
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 15 วันที่ 14 ของการเดินทาง ที่ Salzburg (16Oct)
ตอนต่อไป
ตอนที่ 17 วันที่ 16 ของการเดินทาง ที่ Innsbruck (18Oct)
ขอฝากบล็อค 'ตะลุย Europe & UK'
ตะลุย Europe & UK ไม่ง้อทัวร์
การขอวีซ่า เชงเก้นและ UK
วีซ่า เชงเก้น และ UK